อาคารการเงินและการค้าโลกเฉียนไห่ เฟส II หมายเลข 3040 ถนนซิงไห่ เขตหนานชาน เขตความร่วมมือเชียนไห่ เซินเจิ้น-ฮ่องกง 2001
ปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราวินิจฉัยปัญหารถยนต์ โดยทำให้การพยากรณ์แม่นยำกว่าที่เคยเป็นมา ช่างเทคนิคสามารถตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าหลายเดือนด้วยเทคโนโลยีนี้ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine learning) เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำงานเบื้องหลัง โดยประมวลผลข้อมูลมหาศาลที่รวบรวมมาจากเซ็นเซอร์ของรถยนต์รวมถึงประวัติการซ่อมบำรุงที่มีมาเป็นเวลาหลายปี ระบบอัจฉริยะเหล่านี้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสมรรถนะของเครื่องยนต์หรือการสึกหรอของเบรกที่มิฉะนั้นอาจมองไม่เห็น เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ช่างจะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะเกิดการเสียหาย ร้านค้าที่นำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์มาใช้รายงานว่าสามารถลดเวลาในการวินิจฉัยลงได้ครึ่งหนึ่งในบางกรณี ด้วยรถยนต์นับล้านคันที่ต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งประเทศ การประหยัดเวลาเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่ออู่ซ่อมรถที่พยายามรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ยังคงพัฒนาต่อไป เรากำลังเห็นอู่ซ่อมรถจำนวนมากขึ้นสามารถจัดการกับการวินิจฉัยที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องใช้เวลานานในการทำงานแต่ละชิ้น ส่งผลให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้นและรถยนต์ของพวกเขาสามารถกลับมาใช้งานบนท้องถนนได้เร็วขึ้น
เทคโนโลยีรถยนต์ที่เชื่อมต่อรถกับผู้ผลิตกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการตรวจสอบปัญหาของรถยนต์โดยสิ้นเชิง การแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ทำให้ช่างสามารถมองเห็นปัญหาทันทีที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอจนกว่าลูกค้าจะนำรถเข้ามาที่อู่ การวินิจฉัยปัญหาจากระยะไกลทำให้การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เร็วขึ้นมาก เพราะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบชิ้นส่วนทุกชิ้นด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ระบบโทรมาตร (telematics) ที่ติดตั้งอยู่ภายในรถยนต์เหล่านี้จะรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์สมรรถนะจากระยะไกลได้ ซึ่งช่วยให้รถยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดระยะเวลาที่รถต้องจอดทิ้งไว้ในอู่ซ่อม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า เมื่อมีรถยนต์ที่เชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น เราจะได้เห็นเครื่องมือวินิจฉัยที่มีความแม่นยำมากขึ้นโดยอาศัยการประมวลผลจากคลาวด์ ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้ช่างเทคนิคสามารถติดตามสถานะสุขภาพของรถยนต์โดยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปใกล้ประตูโรงรถเลย สำหรับผู้ขับขี่ หมายถึงการใช้เวลารอคอยการซ่อมแซมน้อยลง และการเดินทางที่มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี ADAS ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยานยนต์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถบรรทุกเชิงพาณิชย์และเครื่องจักรหนักอื่น ๆ ที่การทำงานที่เหมาะสมมีความสำคัญมากที่สุด การปรับเทียบระบบเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ช่างเทคนิคต้องรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ทั่วทั้งตัวรถ ซึ่งต้องอาศัยอุปกรณ์เฉพาะทางเพื่อให้การตั้งค่าแม่นยำ นอกจากนี้ ปัญหาด้านความปลอดภัยก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน รายงานจากอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นถึงจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งเชื่อมโยงกับชิ้นส่วน ADAS ที่ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง แนวโน้มนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเหตุใดอู่ซ่อมรถจึงต้องการวิธีการวินิจฉัยที่ดีกว่าเดิมสำหรับยานพาหนะขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าระบบ ADAS ให้ถูกต้องนั้นไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกสามารถใช้งานรถได้นานขึ้น พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นทุกปี
รถยนต์แบบไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นบนท้องถนนทั่วไป แต่กระแสนี้กลับนำมาซึ่งปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อนในการวินิจฉัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถ เทคโนโลยีภายในรถยนต์เหล่านี้มีความซับซ้อนมากจนช่างธรรมดาไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมอีกต่อไป เราจึงต้องการเครื่องมือพิเศษที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตรวจสอบแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทันสมัย เครื่องมือสแกนรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมานั้นเริ่มมีฟังก์ชันที่รองรับการทำงานกับรถยนต์สมัยใหม่เหล่านี้ ช่วยให้ช่างสามารถตรวจหาปัญหาได้เร็วขึ้นและซ่อมแซมได้อย่างถูกต้อง เมื่อมีผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ช่างเทคนิคจึงต้องการอุปกรณ์วินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพดีกว่าที่เคยมีมาตลอด นั่นหมายความว่าอู่ซ่อมรถที่ต้องการคงความได้เปรียบในการแข่งขัน อาจต้องลงทุนในเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า
ระบบวินิจฉัยที่ทำงานบนคลาวด์ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การตรวจสอบรถยนต์ก้าวหน้าขึ้นมาก ด้วยข้อดีต่าง ๆ ที่เกิดจากการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอและการผนวกรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน เมื่อมีระบบคลาวด์เหล่านี้ เทคนิคก็จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้พวกเขามีข้อมูลล่าสุดที่ต้องการใช้ในเวลาที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหากเราต้องการประเมินสภาพรถยนต์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เมื่อพิจารณาข้อมูลที่รวบรวมจากยานพาหนะหลายคัน แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถเห็นรูปแบบที่อาจมองไม่เห็นได้ในกรณีอื่น ๆ ร้านค้าที่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีนี้รายงานว่าสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้นตามรายงานของอุตสาหกรรม กลไกยังสามารถวินิจฉัยปัญหาได้ทันทีที่เกิดขึ้นแทนที่จะรอให้อาการแสดงออกมาอย่างชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้คือ ลูกค้าเสียเวลาในการรอคอยน้อยลง และช่างผู้เชี่ยวชาญสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดทันทีที่พบปัญหา
ช่างส่วนใหญ่ให้การยอมรับ Autel MaxiSYS MS906Pro ในการทำงานปรับเทียบระบบ ADAS และการตรวจสอบระบบต่าง ๆ พร้อมกันหลายระบบ อุปกรณ์ตัวนี้มีฟังก์ชันหลากหลายในเครื่องเดียว ทำให้ช่างเทคนิคสามารถทำงานซับซ้อนบนรถยนต์หลากหลายประเภทโดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือหลายตัว เจ้าของอู่เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าสามารถประหยัดเวลาในการวินิจฉัยปัญหาได้หลายชั่วโมงและยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม มีผู้จัดการอู่รายหนึ่งกล่าวถึงประสิทธิภาพของเครื่องสแกนนี้ว่า ช่วยลดเวลาการซ่อมแซมลงได้เกือบครึ่งหนึ่งในช่วงการเรียกคืนรถล่าสุด สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับรถยนต์ยุคใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูง การอ่านค่าที่แม่นยำย่อมส่งผลให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำน้อยลง และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงการโปรแกรมระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) แล้ว Autel MaxiPRO MP900-TS ถือว่าโดดเด่นจริงๆ สำหรับช่างเทคนิคและช่างซ่อมต่างให้การยอมรับ เครื่องมือนี้สามารถจัดการงานโปรแกรม TPMS ได้หลากหลาย ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ทั้งสำหรับรถยนต์ทั่วไปไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ ช่างซ่อมรายงานว่าสามารถวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับยาง และรักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์หลายประเภทได้ดีขึ้น ร้านที่ใช้เครื่องมือนี้มักกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ามีปัญหาการกลับมาซ่อมซ้ำที่เกี่ยวข้องกับแรงดันลมยางลดลงอย่างชัดเจน ช่างซ่อมรถยนต์มืออาชีพหลายคนถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือจำเป็นที่ช่วยให้การทำงานกับระบบความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นใหม่สะดวกขึ้นมาก
อุปกรณ์ Autel MaxiPRO MP808S-TS ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานเขียนโปรแกรม ECU และฟังก์ชันควบคุมสองทิศทาง ซึ่งทำให้อุปกรณ์นี้มีความจำเป็นอย่างมากเมื่อต้องดำเนินการวินิจฉัยและตรวจสอบระบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนในรถยนต์รุ่นใหม่ สิ่งที่ทำให้อุปกรณ์นี้แตกต่างคือความสามารถที่ช่างสามารถสื่อสารกลับไปยังส่วนต่าง ๆ ของระบบในรถยนต์ได้โดยตรง พวกเขาสามารถส่งคำสั่งเฉพาะไปยังชิ้นส่วนที่ต้องการการดูแลได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการเดาสาเหตุระหว่างการแก้ไขปัญหา ช่างเทคนิคส่วนใหญ่ที่เคยใช้งานระบุว่าสามารถวินิจฉัยปัญหาได้เร็วกว่าเดิม ร้านซ่อมรถยนต์ทั่วประเทศต่างพบว่าเครื่องมือนี้มีความสะดวกมาก โดยเฉพาะในการจัดการกับปัญหาตั้งแต่ไฟเตือนเครื่องยนต์แบบพื้นฐานไปจนถึงปัญหาระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เฉพาะทางหลายตัวที่ต้องวางไว้เกะกะในอู่
เมื่อผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายไม่ปฏิบัติตามกฎการวินิจฉัยที่เหมือนกัน มันก่อให้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมรถยนต์ การขาดมาตรฐานร่วมกันทำให้ช่างเทคนิคไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการวินิจฉัยอันทันสมัยที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียเวลาและเงินทอง รวมถึงบริการที่ไม่สม่ำเสมอ เอาความร่วมมือระหว่าง GEICO กับ asTech เป็นตัวอย่าง บริษัทแบบนี้กำลังพยายามสร้างมาตรฐานขั้นต่ำว่าการวินิจฉัยที่ดีควรเป็นอย่างไร โดยเน้นการทำให้เครื่องมือต่างๆ สามารถใช้งานได้กับรถยนต์หลายยี่ห้อ เพื่อไม่ให้ช่างเทคนิคต้องเปลี่ยนระบบใช้งานตลอดเวลาที่เดินเข้าไปในอู่ มองไปข้างหน้า เมื่อมีผู้เล่นในอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มยอมรับมาตรฐานแบบนี้ องค์กรพันธมิตรลักษณะนี้น่าจะช่วยสร้างเครือข่ายการวินิจฉัยที่ไร้รอยต่อ ซึ่งรถยนต์จากทุกผู้ผลิตสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ มากมายเหมือนเดิม
ด้วยจำนวนผู้คนมากมายที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ช่างจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางเพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างเหมาะสม รถยนต์ไฟฟ้าไม่เหมือนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมเลย พวกมันมีระบบที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง รวมถึงชิ้นส่วนที่อาจซับซ้อนในการวินิจฉัยปัญหาหากไม่มีความรู้ที่เพียงพอ การได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการวินิจฉัยระบบรถยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงแต่ช่วยให้ช่างสามารถซ่อมรถได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับช่างเองด้วย สอนยานยนต์ทั่วประเทศรายงานว่า คลาสเรียนเกี่ยวกับการวินิจฉัยปัญหารถยนต์ไฟฟ้าเต็มอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่างมีความตระหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ เมื่อจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น โปรแกรมการฝึกอบรมที่มีคุณภาพจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้รถยนต์เหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคที่ต้องการความอุ่นใจเมื่อนำรถยนต์ไฟฟ้าของตนมาเข้ารับบริการ
อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ ณ จุดเปลี่ยนสำคัญอันเนื่องมาจากการผสานระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับการบำรุงรักษาเชิงทำนาย (predictive maintenance) ระบบยุคใหม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ทั่วทั้งยานพาหนะ ช่วยให้ระบุปัญหาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะเกิดการเสียหายหรือขัดข้อง ซึ่งหมายความว่าผู้ขับขี่จะพบกับสถานการณ์ไม่คาดคิดลดลง และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซงโดยรวมก็ลดลงตามไปด้วย การศึกษาวิจัยจากหลายผู้ผลิตยืนยันว่าวิธีการเชิงทำนายแบบนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้อยู่บนท้องถนนได้นานขึ้นระหว่างการเข้ารับบริการแต่ละครั้ง ช่างเทคนิคที่ทำงานร่วมกับเครื่องมือวินิจฉัยที่ใช้ AI ไม่ได้แค่ซ่อมแซมสิ่งที่เสียหายแล้วอีกต่อไป แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่ลูกค้าจะรู้สึกตัวว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งช่วยลดเหตุการณ์รถเสียฉับพลันบนท้องถนนที่สร้างความไม่สะดวกใจ แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่การมีอยู่ของ AI ในแผนกบำรุงรักษาก็สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในรูปแบบการดำเนินงานของอู่ซ่อมรถ แม้ว่าในปัจจุบัน ร้านค้าและอู่ซ่อมรถหลายแห่งยังคงอยู่ในขั้นเรียนรู้วิธีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่กระทบต่อโครงสร้างต้นทุน